Big data มีความสำคัญอย่างไรในยุคนี้ Big Data เป็นคำศัพท์ใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้ในช่วงปี 1990 โดยมี John Mashey ผู้ที่ทำให้คำนี้เป็นที่รู้จักขึ้นมา ซึ่งปกติแล้ว Big Data จะเป็นข้อมูลที่มีปริมาณที่ใหญ่มากโดยที่ซอฟท์แวร์รุ่นเก่าไม่สามารถประมวลผลได้ หรือสามารถประมวลผลได้แต่ใช้เวลานาน โดย Big Data จะมีทั้งข้อมูลที่มีโครงสร้าง กึ่งมีโครงสร้าง และไม่มีโครงสร้าง ขนาดของ Big Data ก็จะมีการเพิ่มขนาดของข้อมูลขึ้นไปเรื่อยๆ จากปัจจุบันที่มีขนาดข้อมูลหลายพัน Terabytes ก็จะมีการเพิ่มขนาดเป็น Zettabytes

การทำงานของ Big Data ต้องอาศัยเทคนิคและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถรองรับข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ ซับซ้อน และหลากหลายได้ โดยในปี 2018 ได้มีการนิยาม Big Data ใหม่ว่า “Big Data คือ เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการกับข้อมูล”

Big data คือคำนิยามของข้อมูลที่มีองค์ความรู้และสิ่งต่างๆมากมายขนาดใหญ่ในทุกชนิดและในทุกองค์กรของเราไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านของข้อมูลลูกค้า supplier พฤติกรรมผู้ใช้บริโภคและข้อมูลบริษัทต่างๆมากมายรวมไปถึงเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับองค์กรนั้นๆรวมไปถึงรูปภาพและสิ่งต่างๆมากมายที่มีอยู่ในปริมาณที่มากจนกระทั่งซอฟต์แวร์ปกติทั่วไปไม่สามารถที่จะรองรับหรือเก็บข้อมูลที่สามารถประมวลผลได้อย่างเต็มที่และเต็มประสิทธิภาพ

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ถือได้เกิดกำเนิดขึ้นมาและเป็นเทคโนโลยีทางด้านสถาปัตยกรรมไอทีรุ่นใหม่ที่มีการออกแบบเป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถรองรับการจัดเก็บและการจัดการข้อมูลรวมไปถึงการคัดกรองข้อมูลต่างๆมากมายและยังสามารถที่จะเป็นอีกหนึ่งการใช้งานข้อมูลในลักษณะต่างๆได้เรื่องของปริมาณและประเภทดังต่อไปนี้

ปริมาณมาก : เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีแน่นอนคือการสร้าง Big Data ขึ้นมาโดยข้อมูลขนาดใหญ่เหล่านี้คือปริมาณของมันที่มีในรูปแบบที่มากจนเกินขอบเขตในเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมจึงทำให้สามารถจัดการได้และเรียกว่านี่เป็นอีกหนึ่งส่วนที่เรียกได้ว่าเป็นปริมาณที่วัดกันเป็นหน่วยแบบเทราไบต์ขึ้นไปอีกด้วย

มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว : สามารถที่จะส่งผ่านข้อมูลกันได้อย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์จนทำให้การวิเคราะห์ต่างๆนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายในแบบแมนนวลที่เกิดข้อจำกัดและยังไม่สามารถที่จะจัดรูปแบบหรือทิศทางของข้อมูลได้

มีหลากหลายประเภทและแหล่งที่มาที่ชัดเจน : ดูรูปแบบของการจัดข้อมูลต่างๆที่แตกต่างกันออกไปในรูปแบบของตัวอักษรวีดีโอรูปภาพและไฟล์ต่างๆมากมายนั้นมีมากมายหลากหลายที่เป็นมาและส่วนใหญ่จะใช้ Big Data ในการจัดการโดยยกตัวอย่างเช่น Social Network ต่างๆนั้นเอง

ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าข้อมูลต่างๆเหล่านี้มีลักษณะที่เรียกว่าแตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมาที่ไม่มีข้อมูลที่รองรับและการจัดการอย่างเห็นได้ชัดยังไม่เคยนำมารวมกันเพื่อตั้งโจทย์ในการสร้างประโยชน์อย่างสูงที่สุดและสร้างผลลัพธ์อย่างสูงที่สุดต่อกระบวนการและองค์กรของคุณ

ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างประโยชน์อย่างเต็มที่มีประสิทธิภาพได้อย่างชัดเจนและนี่เองนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะเป็นกระบวนการในการวิเคราะห์ข้อมูลและการดูความสัมพันธ์ของเครื่องมือที่มีความเหมาะสมเพื่อให้เกิดข้อมูลอย่างสูงที่สุดที่สามารถใช้งานได้ง่ายจริงแบบที่เรียกได้ว่า information ที่เกิดประโยชน์อย่างสูงที่สุดในธุรกิจของคุณอีกด้วยว่าบริษัทมีข้อมูลที่พร้อมและมีประโยชน์อย่างอื่นได้ชัด

จึงทำให้ Big Data มีความสำคัญและเป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่มีความตอบโจทย์ให้กับผู้ที่ต้องการที่จะทำผลประโยชน์อย่างสูงที่สุดในการสร้างประโยชน์และการหาแหล่งข้อมูลและแหล่งความเป็นมาได้อย่างลงตัวตัวและชัดเจนอีกด้วย

สรุปได้ว่า Big Data มีความจำเป็นและมีความสำคัญต่อธุรกิจในเชิงประโยชน์กับธุรกิจว่าบริษัทกำลังต้องการที่จะจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าที่มีประโยชน์อย่างสูงสุดจึงทำให้กระบวนการตัดสินใจและกระบวนการจัดเก็บเหล่านี้จึงเป็นทางเลือกที่เต็มไปด้วยคุณภาพได้อย่างลงตัวและเต็มประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วยยังสามารถที่จะใช้ข้อมูลดังจากทุกแหล่งที่มีความเป็นไปได้และรวมถึงการนำมาวิจัยและวิเคราะห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คุณต้องการซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าใจถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ทั้งยังลดต้นทุนในการระยะเวลาในการดำเนินการและสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและทันท่วงทีซึ่งในปัจจุบันนี้นั้นองค์กรต่างๆและบริษัทต่างๆและนำเอา Big Data มาวิเคราะห์ใช้ในการขายและรวมไปถึงการตลาดของธุรกิจได้เป็นอย่างดีเครื่องมือเหล่านี้จึงได้รับความนิยมและเป็นที่เรียกได้ว่าสามารถเข้าใจได้ง่ายและเห็นกันอยู่บ่อยๆเลยก็ว่าได้และองค์กรใหญ่ๆนั้นก็เรียกได้ว่ามีกันทุกบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว